ไมเกรนเป็นโรคที่ก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะเรื้อรังชนิดหนึ่ง ที่มีความแตกต่างจากโรคปวดศีรษะทั่วไป อย่างคาดไม่ถึง ปัจจุบันสาเหตุของไมเกรนยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด มีอยู่หลาย ทฤษฎีที่เชื่อว่า อาจจะเกิดความผิดปกติชั่วคราว ของระดับสารเคมีในสมองการสื่อกระแสประสาทในสมอง
การทำงานที่ผิดปกติไปของหลอดเลือดสมองชั่วคราว และจากข้อมูลทางระบาดวิทยา ปัจจุบันเชื่อว่าไมเกรนสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่จะเกิดอาการหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งภายในและภายนอกร่างกายที่มากระทบ

อาการ
อาการปวดศีรษะไมเกรน ต่างจากอาการปวดศีรษะธรรมดาตรงที่ว่า อาการปวดศีรษะธรรมดามักจะปวดตื้อ ๆ  ที่ไม่รุนแรงนัก และมักจะไม่มีอาการอื่น เช่น คลื่นไส้ร่วมด้วย ส่วนใหญ่จะหายได้เองเมื่อได้นอนหลับสนิทไปพักใหญ่ แต่ไมเกรน มักจะปวดตุ๊บ ๆ เป็นระยะ ๆ แต่ก็มีบางคราวที่ปวดแบบตื้อ ๆ ส่วนมากจะปวดรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก โดยจะค่อย ๆ ปวดมากขึ้นทีละน้อยจนกระทั่งปวดรุนแรงเต็มที่แล้ว  จึงค่อย ๆ บรรเทาอาการปวดลงจนหาย มักจะปวดข้างเดียว หรือเริ่มปวดข้างเดียวก่อนแล้วจึงปวดทั้งสองข้าง แต่ละครั้งที่ปวดมักจะย้ายข้างไปมาหรือย้ายตำแหน่งได้ แต่บางครั้งก็ อาจจะปวดทั้งสองข้างพร้อม ๆ กันตั้งแต่แรก
โรคปวดศีรษะไมเกรน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย มักเป็นในผู้ที่มีความเครียดทางอารมณ์และจิตใจสูง แต่ก็อาจเกิดในผู้ที่สุขภาพจิตดีก็ได้

การตรวจวินิจฉัย
•    อาการปวดศีรษะที่เกิดจากโรคไมเกรน แพทย์ต้องการทำวินิจฉัยจากลักษณะจำเพาะของอาการปวดศีรษะ อาการที่เกิดร่วมด้วย ตรวจร่างกายพบว่าสมองทำงานปกติดี และไม่พบความผิดปรกติของร่างกายส่วนอื่น ๆ ที่จะทำให้ปวดศีรษะได้ด้วย
•    ลักษณะต่าง ๆ ของอาการปวดได้แก่ ตำแหน่ง ความรุนแรง ลักษณะการปวด การดำเนินการของการปวด
•    อาการที่เกิดร่วมด้วย คลื่นไส้ เวียนหัว
•    ไม่พบความผิดปกติของการทำงานของสมองหรืออวัยวะต่าง ๆ  ที่อาจก่อให้เกิดอาการปวด เช่น ความคิดอ่านเชื่องช้า มองเห็นภาพซ้อน แขนขาอ่อนแรง เดินเซ ไข้ ตาแดง ตาโปน มีน้ำมูก กลิ่นเหม็น เป็นต้น
•    ปัจจัยกระตุ้นอาการปวด เช่น ความเครียด แสงจ้า ๆ อาหารบางชนิด อดนอน
•    ปัจจัยทุเลาอาการปวด เช่น การนอนหลับ การนวดหนังศีรษะ ยา การกดจุด
•    นอกจากนี้ แพทย์อาจต้องสอบถามอาการ และตรวจร่างกายผู้ป่วยเพิ่มเติมในกรณีที่จำเป็น เพื่อการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้อง

ปัญหาที่พบบ่อย
ปัญหาที่พบบ่อยที่เห็นได้ชัดคือ เสียสุขภาพกาย ต้องทรมานจากความปวด บางรายปวดรุนแรงมากจนแทบอยากจะวิ่งเอาหัวชนฝาผนัง บางรายปวดข้ามวันข้ามคืนจนนอนหลับไม่สนิท บ้างก็คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลียจนเสียสมรรถภาพการเรียน การทำงาน ไมเกรนเป็นโรคหนึ่งที่ทำให้ผู้ทำงานประเภทใช้ความคิด ต้องขาดงานเป็นจำนวนมาก ทำให้สูญเสียทางเศรษฐกิจไม่น้อย ถ้าเป็นบ่อยและรุนแรงมาก ๆ ก็ ทำให้เสียสุขภาพจิตได้ บ้างก็จะวิตกกังวลอาจจะเป็นเนื้องอกในสมอง

*อาการที่แสดงไว้เพื่อเป็นคำแนะนำในเบื้องต้นเท่านั้น

วิธีการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคไมเกรนที่สำคัญ คือ การบรรเทาอาการปวดศีรษะ และการป้องกันการไม่ให้เกิดหรือลดความถี่ ความรุนแรงของอาการ
การบรรเทาอาการปวดศีรษะนั้นอาจะไม่จำเป็นต้องใช้ยา เช่น การนวด การกดจุด การประคบเย็น การประคบร้อน หรือการนอนหลับ ในรายที่ไม่ได้ผลหรืออาการรุนแรงจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวด


วิธีป้องกัน
สำหรับการป้องกันไม่ให้เกิดหรือลดความถี่ ความรุนแรงของอาการปวดศีรษะนั่น ที่สำคัญมีอยู่  2 วิธี
•    วิธีแรก คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ร่วมกับการกำจัดความเครียดอย่างเหมาะสม
•    วิธีที่สอง คือ กินยาป้องกันไมเกรน แพทย์จะแนะนำให้กินยาป้องกันก็ต่อเมื่อปวดศีรษะบ่อยมาก เช่น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งขึ้นไป หรือแม้จะปวดไม่บ่อยแต่รุนแรงมากหรือนานต่อเนื่องกันหลายวัน ยาป้องกันไมเกรนนั้นมีอยู่หลายชนิด ยาแต่ละชนิดจะมีผลข้างเคียงต่างกันไป จะต้องเลือกชนิดและปรับขนาดยาให้เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายไป แนะนำให้เกิดยาป้องกันต่อเนื่องจนอาการสงบลงนาน 6-12 เดือน จึงลองหยุดยาได้ เมื่อกำเริบขึ้นอีกจึงเริ่มกินใหม่
แม้ไมเกรนจะเป็นโรคที่เรื้อรัง แต่สามารถควบคุมให้โรคสงบลงได้ หากรู้จักรับมือกับอาการที่เกิดขึ้น