ความดันโลหิต
วันอังคารที่ 27 เดือน กันยายน พ.ศ. 2554
ทุกๆ คนต้องมีความดันโลหิตเพราะความดันโลหิตจะเป็นแรงผลักดันให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนั้น ทุกคนควรจะเรียนรู้เกี่ยวกับความดันโลหิต และรักษาให้ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติเพราะความดันโลหิตสูงจะทำให้เกิดหลอดแข็งและตีบ เมื่อหัวใจบีบตัวหัวใจจะบีบเลือดไปยังหลอดเลือดแดงทำให้เกิดความดันโลหิตซึ่งเกิดจากการบีบตัวของหัวใจ และแรงต้านทานของหลอดเลือดหัวใจคนเราเต้น 60-80 ครั้ง ความดันก็จะเพิ่มขณะที่หัวใจบีบตัวและลดลงขณะที่หัวใจคลายตัว ความดันโลหิตของคนเราไม่เท่ากันตลอดเวลาขึ้นกับการเปลี่ยนท่า ความเครียด การออกกำลังกาย การนอนหลับ แต่ไม่ควรเกิน 140/90 mmHg หากสูงกว่านี้แสดงว่าคุณเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหัวใจ | |
โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคอัมพาต โรคหัวใจเป็นโรคที่มีอัตราตายสูง ดังนั้นการป้องกันความดันโลหิตสูงสามารถป้องกันอัตราการตายจากโรคหัวใจและโรคอัมพาต โรคความดันโลหิตสูง เป็นภัยเงียบที่คุกคามชีวิตของทุกท่าน เนื่องจากไม่มีอาการเตือน ดังนั้น การจะทราบว่าเป็นความดันโลหิตสูงจำเป็นต้องวัดความดันโลหิต ความดันโลหิตแค่ไหนจึงเป็นโรคความดันโลหิตสูง |
ความดันโลหิตที่วัดได้ (mm Hg)
ความดันโลหิตที่วัดได้ (mm Hg) | |||
ความรุนแรงของความดันโลหิต | Systolic | Diastolic | จะต้องทำอะไร |
ความดันโลหิตที่ต้องการ | น้อยกว่า 120 | น้อยกว่า 80 | ให้ตรวจซ้ำใน 2 ปี |
ความดันโลหิตสูงขั้นต้น Prehypertension | 130-139 | 85-89 | ตรวจซ้ำภายใน 1 ปี |
ความดันโลหิตสูง | |||
ความดันโลหิตสูงระดับ 1 Stage 1 (mild) | 140-159 | 90-99 | ให้ตรวจวัดความดันอีกใน 2 เดือน |
ความดันโลหิตสูงระดับ 2 Stage 2 (moderate) | >160 | >100 | ให้พบแพทย์ใน 1 เดือน |
สาเหตุของความดันโลหิตสูง
ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุเรียก primary หรือ essential hypertension สามารถควบคุมความดันโลหิตได้แต่รักษาไม่หาย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกัน ส่วนที่ทราบสาเหตุเรียก secondary hypertension เช่น เนื้องอกต่อมหมวกไต ยาคุมกำเนิด หากทราบสาเหตุสามารถรักษาให้หายขาดได้
Primary hypertension
หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า essential hypertension เป็นความดันโลหิตสูงที่พบมากที่สุดกลุ่มนี้ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มักจะพบว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์กับการรับประทานอาหารเค็ม อ้วน กรรมพันธุ์ อายุมาก เชื้อชาติ และการขาดการออกกำลังกาย
Secondary hypertension เป็นความดันโลหิตสูงที่ทราบสาเหตุพบได้ประมาณร้อยละ 5 ของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงสาเหตุที่พบได้บ่อยคือ |
|||||||||
|
|||||||||
ความดันโลหิตต่ำ ปกติความดันโลหิตยิ่งต่ำยิ่งดีเพราะเกิดโรคน้อย แต่หากความดันโลหิตที่ต่ำทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะเป็นลมเวลาลุกขึ้นแสดงว่า ความดันต่ำไป สาเหตุที่พบได้มีดังนี้ |
|||||||||
|
เคล็ดลับในการรักษาความดันโลหิตสูง | |
1. | ตรวจวัดความดันเป็นระยะ |
2. | รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ โดยการลดน้ำหนักลง 10% สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกิน |
3. | งดอาหารเค็มหรือเกลือไม่ควรได้รับเกลือเกิน 6 กรัมต่อวัน |
4. | รับประทานอาหารไขมันต่ำ |
5. | งดการสูบบุหรี่ |
6. | รับประทานยาตามแพทย์สั่ง |
7. | ไปตามแพทย์นัด |
8. | ออกกำลังกายตามแพทย์แนะนำโดยการออกกำลังวันละ 30-45 นาทีสัปดาห์ละ 3-5 วัน |
9. | รับประทานอาหารที่มีเกลือโปแตสเซียม |
10. | แนะนำให้พาพ่อแม่พี่น้องและลูกไปตรวจวัดความดันโลหิต |
ความดันโลหิตสูงในเด็ก เราไม่ค่อยพบความดันโลหิตสูงในเด็ก แต่เด็กก็สามารถเป็นความดันโลหิตสูงการค้นพบความดันโลหิตสูงตั้งแต่แรกจะสามารถป้องกันโรคหัวใจ โรคไต ดังนั้น เด็กควรที่จะได้รับการวัดความดันโลหิตเหมือนผู้ใหญ่ สาเหตุก็มีทั้ง primary และ secondary พบว่า เด็กที่มีน้ำหนักตัวมาก เด็กที่มีประวัติครอบครัวเป็นความดันโลหิต หรือบางเชื้อชาติ เหล่านี้จะมีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูง แพทย์จึงควรแนะนำเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย หากความดันโลหิตไม่ลงจึงให้ยารับประทาน |