"ระวังบริโภคเห็ดพิษ...อันตราย"
วันพุธที่ 10 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2556
"ระวังบริโภคเห็ดพิษ...อันตราย" กรมควบคุมโรค แนะนำควรเลือกบริโภคเห็ดที่รู้จักและมั่นใจ หากลังเลสงสัยว่าเป็นเห็ดพิษควรงดการบริโภค ขณะนี้พบผู้ป่วยแล้ว 180 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต
ช่วงนี้เป็นช่วงที่จะเข้าสู่ฤดูฝนมีฝนตกประปราย อากาศสลับร้อนสลับเย็น มีความชื้น มักมีเห็ดตามธรรมชาติขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นโปรตีนที่ดีอย่างหนึ่ง แต่การบริโภคเห็ดตามธรรมชาติต้องระวังเห็ดที่เป็นพิษ รับประทานแล้วอาจเสียชีวิตได้
ช่วงฤดูฝนนี้ จะมีเห็ดป่าออกมาสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งเห็ดกินได้และเห็ดพิษ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากผู้เก็บเห็ดป่าอาจไม่มีความรู้ดีพอที่จะแยกเห็ดกินได้และเห็ดพิษออกจากกัน ดังนั้นผู้บริโภคเห็ดควรต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อ หากผู้บริโภคไปเก็บเห็ดมาบริโภคเอง ต้องศึกษาหาความรู้เพื่อจะได้ไม่ไปเก็บเห็ดพิษมาบริโภค เห็ดพิษในประเทศไทยมีมากมายหลายชนิด ได้แก่ เห็ดระโงก เห็ดไข่ตายซาก เห็ดแดงน้ำหมาก เห็ดระโงกหิน เห็ดสมองวัว เห็ดรูประฆัง เห็ดเกล็ดดาว เห็ดขี้วัว เป็นต้น ซึ่งเห็ดพิษหลายชนิดจะคล้ายคลึงกับเห็ดที่รับประทานได้ ขอแนะนำให้เลือกรับประทานเห็ดที่รู้จัก หากไม่แน่ใจ ลังเล สงสัยว่าจะเป็นเห็ดพิษขอให้งดการรับประทานเห็ดดังกล่าวเพราะยังไม่มีวิธีพิสูจน์ความเป็นพิษของเห็ดที่ได้ผลแม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์
อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะนำว่า หากพบผู้ป่วยรับประทานเห็ดพิษและเกิดอาการป่วยขึ้น อาการของพิษ จะมีหลายอาการตามชนิดของเห็ดที่นำมารับประทาน เริ่มตั้งแต่มีอาการเมา ร่าเริง ประสาทหลอน เอะอะโวยวาย ชัก หมดสติ หรือ อาจมึนงง ปวดศีรษะ อาเจียน ท้องเสีย เป็นตะคริว เจ็บที่ท้อง บางรายรุนแรงจะพบตับถูกทำลาย ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ชัก ไม่รู้สึกตัว และอาจถึงตายภายใน 2-4 วัน หลังรับประทานเห็ดพิษ บางรายมีอาการหน้าแดง ตัวแดง ใจสั่น หายใจหอบ เหงื่อแตก เจ็บหน้าอก ชาตามตัว คลื่นเหียนอาเจียน ความดันสูง หรืออาจพบความดันต่ำก็ได้ ไม่ว่าจะมีอาการอย่างไร การปฐมพยาบาลที่สำคัญที่สุด คือ หากผู้ป่วยไม่หมดสติการทำให้ผู้ป่วยอาเจียนเอาเศษอาหารที่ตกค้างออกมาให้มากที่สุดและทำการดูดพิษโดยใช้น้ำอุ่นผสมผงถ่าน (activated Charcoal) โดยดื่มแก้วแรกให้ล้วงคอให้อาเจียนออกมาก่อน แล้วดื่มแก้วที่ 2 แล้วล้วงคอให้อาเจียนอีกครั้ง การนำส่งพบแพทย์ต้องนำตัวอย่างเห็ดมาด้วย หรืออาหารที่เหลือ หากผู้ป่วยอาเจียนยากให้ใช้เกลือแกง 3 ช้อนชา ผสมน้ำอุ่นดื่ม จะทำให้อาเจียนง่ายขึ้น แต่วิธีนี้ห้ามใช้กับเด็กต่ำกว่า 5 ขวบ และขอย้ำว่าหากไม่รู้จักเห็ดที่นำมารับประทานห้ามนำมารับประทานเด็ดขาดค่ะ
ด้วยความปรารถนาดี จากโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์