HA กับ SHA
วันพุธที่ 30 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 542
HA กับ SHA
บริการสุขภาพที่จะเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย น่าจะเป็นระบบที่ประชาชนให้ความเคารพ เชื่อถือ ตามที่ได้สืบมาในสังคมและวัฒนธรรมไทย
กระบวนการดูแลผู้ป่วยที่พึงประสงค์ จำต้องอาศัยคน ทรัพยากร ความรู้ ยาและเทคโนโลยี รวมถึงการจัดการเพื่อให้องค์ประกอบต่างๆ ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้มีการประมวลไว้เป็นแนวทางให้โรงพยาบาลนำไปปฏิบัติ ที่เรารู้จักกันว่า “ มาตรฐานโรงพยาบาล “
การดูแลผู้เจ็บไข้ได้ป่วย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับความเป็นมนุษย์ ซึ่งมุ่งเน้นการดูแลด้านจิตใจของผู้ที่ป่วยไข้หรือทุกข์ทรมาน วัฒนธรรมดั้งเดิมของไทย สังคมจะยกย่องแพทย์ หมอ พยาบาล ว่าเป็นปูชนียบุคคล เป็นผู้ที่ช่วยชีวิตผู้คน มีคุณค่าต่อสังคม ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้เชื่อมโยงกับคุณค่าที่ดีของทั้งสองฝ่าย คือ หมอพยาบาลมีความเมตตากรุณาและความรักต่อคนไข้ คนไข้มีความกตัญญูรู้คุณ
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล พยายามส่งเสริมให้เกิดสมดุลทั้งสองด้าน คือการมีระบบการแพทย์ที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ใช้ความรู้ทางวิชาการ มีระบบการจัดการที่ดีควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญในเรื่องราวของชีวิต มิติจิตใจ ธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณีและสิ่งแวดล้อม เป็นความสัมพันธ์ที่บูรณาการและผสมกลมกลืนกันอย่างเหมาะสมงดงาม เกิดความพอดีระหว่างวิทยาศาสตร์กับมิติด้านจิตใจ มีการฝึกฝนจิตใจให้พร้อมที่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อันจะทำให้ระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยมีความงดงาม เกิดผลที่ดีที่สุดแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างมากที่สุด
SHA เป็นโครงการต่อเนื่องในความพยายามที่จะนำกระบวนการ HA มาใช้การการสร้างเสริมสุขภาพโดยโรงพยาบาล โดยขยายเป้าหมายสู่การสร้างระบบบริการสุขภาพที่ยั่งยืนภายใต้ชื่อยาวๆ ว่า Sustainable Healthcare and Health Promotion by Accreditation เมื่อชื่อ SHA ติดตลาด จึงตกผลึกว่าคำเต็มของ SHA ควรจะเป็น Sustainable Healthcare by AA โดย Healthcare ในที่นี้หมายรวมถึง Health Promotion ด้วย และ AA ก็คือ Appreciation & Accreditation
จากการสร้างฝันและลงมือปฏิบัติ ทำให้เกิดการเรียนรู้ว่าหัวใจสำคัญของ SHA คือ การทำงานที่มุ่งเข้าถึงมิติด้าน
จิตวิญญาณ ทั้งของผู้รับบริการและผู้ให้บริการ ทั้งในการทำงานประจำ การพัฒนาคุณภาพ และการเยี่ยมโดยผู้แทนของ สรพ.
การมุ่งเข้าถึงมิติด้านจิตวิญญาณคือการประมวลแนวคิดที่มีการนำเสนอในการประชุม HA National Forum ต่อเนื่องกัน
มา อาทิ humanized healthcare, healing environment, living organization ขยายความรวมไปถึงการใช้สุนทรียศาสตร์และการสร้างคุณค่าให้แก่กันและกัน
HA และ SHA เป็นเสมือนหยินกับหยางซึ่งช่วยเกื้อหนุนและเติมเต็มให้แก่กัน ซึ่งโรงพยาบาลควรนำหลักการ แนวคิด และเครื่องมือของ HA และ SHA ไปปฏิบัติในลักษณะที่เป็นองค์รวม ยิ่งบูรณาการกันได้มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้ทุกคนมีความสุขและองค์กรประสบความสำเร็จมากเท่านั้น
โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้เป็นอย่างดีและได้นำหลักการ, มาตรฐาน HA มาประยุกต์
ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 และได้พัฒนาต่อเนื่องมาโดยตลอดควบคู่ไปกับการพัฒนาการดูแลด้านจิตใจ จิตวิญญาณของทั้งผู้ให้และผู้รับบริการและในปี พ.ศ. 2554 - 2555 ได้กำหนดเข็มมุ่งการพัฒนาเรื่องการพัฒนาตามมาตรฐาน HA และการพัฒนา Spiritual Care ของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ พร้อมกำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน)